การวินิจฉัยอาการปวดท้องเฉียบพลันในผู้ใหญ่ Dr. Lew
อาการปวดท้องเฉียบพลัน(ไม่เกิน1-2สัปดาห์)ในผู้ใหญ๋(อายุตั้งแต่
15 ปีขึ้นไป) เป็นอาการที่พบได้บ่อยในเวชปฏิบัติ
โดยเฉพาะอุบัติการณ์จากห้องฉุกเฉินตั้งแต่ 5-10 % สาเหตุแตกต่างไปตามประเทศ ภูมิภาค
ครอบคลุมโรคจากหลายระบบ ต้องได้รับการวินิจฉัยและดูแลที่ถูกต้องจากแพทย์เวชปฏิบัติ
แพทย์ห้องฉุกเฉิน อายุรแพทย์ ศัลยแพทย์ สุตินารีแพทย์ เป็นต้น
อาการปวดท้องที่เกิดขึ้นกับอวัยวะในช่องท้องแล้วยังอาจมาจากนอกช่องท้องได้แก่ปวดท้องเนื่องจากเส้นเลือดหัวใจตีบและปอดอักเสบ
เป็นต้น โดยข้อมูลที่นำมาใช้ช่วยวินิจฉัยได้แก่ ชื่อ เพศ
อายุ สภาพสมรส ประจำเดือนครั้งสุดท้าย(เฉพาะหญิง)
บทความนี้เป็นการกล่าวถึงโรคต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้คร่าวๆ
เพราะอาศัยข้อมูลจากประวัติอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งย่อมต้องมีข้อจำกัดมาก
ดังนั้นไม่สามารถใช้แทนการตรวจของแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือ นำไปอ้างอิงหรือการฟ้องร้องใดๆทั้งสิ้น
การวินิจฉัยอาการปวดท้องเฉียบพลันในผู้ใหญ่มีประมาณ 25
โรคครอบคลุมถึงอาการปวดท้องเฉียบพลันที่สามารถทำให้ถึงกับชีวิตได้หากไปโรงพยาบาลไม่ทัน
เช่น โรคเส้นเลือดใหญ่เอออร์ตาในท้องแตก ท้องนอกมดลูก กระเพาะทะลุ เป็นต้น
ดังนั้นไม่ควรเสียเวลาในการพยายามหาคำตอบจากโปรแกรมมากกว่าการไปพบแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินหรือโรงพยาบายเพื่อการรักษาที่ถูกต้องมากกว่า
สิ่งที่แพทย์จะซักประวัติเพื่อช่วยการวินิจฉัย
ได้แก่
1.
ข้อมูลพื้นฐานผู้ป่วยได้แก่ ชื่อ เพศ อายุ สภาพสมรส
ประจำเดือนครั้งสุดท้าย(เฉพาะหญิง เพื่อคำนวณระยะเวลาไข่ตก
ภาวะประจำเดือนขาด-ตั้งครรภ์) เกี่ยวข้องกับอาการปวดท้องที่เกิดขึ้นได้ เข่น
ปวดท้องจากไข่ตกยืนยันจากระยะรอบเดือน
และอาการปวดท้องจากท้องนอกมดลูกยืนยันและเกี่ยวข้องกับการขาดประจำเดือน-ตั้งครรภ์
เป็นต้น
2.
อายุมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคปวดท้องที่เป็นตามกลุ่ม
โดยเฉพาะผู้สูงอายุมีโอกาสเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ
ภาวะสำไส้ขาดเลือด ภาวะกระเปาะลำไส้อักเสบหรือมีเลือดออก ภาวะลำไส้อุดตัน
และเส้นเลือดใหญ่เอออร์ต้นปลิหรือแตก เป็นต้น อายุน้อยมีโอกาสเป็นตับอักเสบ
ไส้ติ่งอักเสบและถุงน้ำดีอักเสบ เป็นต้น
3.
อาการปวดท้องเฉียบพลันแต่ละโรคสามารถแยกกันได้ด้วยความเฉียบพลันที่เกิด-น้อยกว่า 24 ชั่วโมง(ทันที
เป็นพักๆ ค่อยๆปวดมากขึ้น) ความรุนแรง(3.1 อ้างอิง
ร.พ.บ้านตาก) ลักษณะการปวด(บีบเป็นพักๆ ตื้อๆ
ร้าวๆ) ตำแหน่งที่ปวด(ท้องด้านขวาบน-ถุงน้ำดีอักเสบ
นิ่วอุดตันในท่อน้ำดี บริเวณลิ้นปี่-โรคกระเพาะ โรคตับอ่อน บริเวณท้องด้านซ้ายบน-ม้าม
ไต บริเวณรอบสะดือ-ลำไส้เล็ก ไส้ติ่ง บริเวณท้องน้อยด้านขวา-ไส้ติ่งอักเสบ
ปวดท้องจากไข่ตก ท้องนอกมดลูกและปวดจากปีกมดลูกอักเสบ
บริเวณท้องน้อยเหนือหัวเหน่า- กระเพาะปัสสาวะอักเสบ และบริเวณท้องน้อยด้านซ้าย-ปวดท้องจากไข่ตก
ท้องนอกมดลูกและปวดจากปีกมดลูกอักเสบ เป็นต้นและอาการปวดร้าวหรือย้ายตำแหน่งปวด-ไส้ติ่งอักเสบจากปวดรอบสะดือย้ายมาท้องน้อยด้านขวา
ถุงน้ำดีอักเสบปวดจากท้องด้านขวาบนและสะบักด้านขวาด้วยและนิ่วจากท่อปัสสาวะปวดท้องน้อยด้านซ้ายหรือขวาแล้วร้าวลงไปขาหนีบหรือต้นขาด้านในได้เป็นต้น
ความรุนแรงของความปวด
ใช้ตัวเลขแทนความปวดตั้งแต่ 0-10 (Numeric Rating Scale-NRS) |
||||
คะแนน |
0 |
หมายถึง |
ไม่ปวด
ขยับตัวก็ไม่ปวด |
|
คะแนน |
1-3 |
หมายถึง |
ปวดเล็กน้อยพอทนได้
นอนเฉยๆไม่ปวด ขยับแล้วปวดเล็กน้อย |
|
คะแนน |
4-6 |
หมายถึง |
ปวดปานกลาง
นอนเฉยๆก็ปวด ขยับก็ปวด |
|
คะแนน |
7-10 |
หมายถึง |
ปวดมากที่สุดจนทนไม่ได้
แม้นอนนิ่งๆ |
4.
อาการที่เกี่ยวข้องที่สำคัญได้แก่ ไข้หมายถึงมีการอักเสบของอวัยวะในท้องที่ทำให้ปวดท้องเข่น
ไส้ติ่ง ถุงน้ำดีหรือปีกมดลูกอักเสบเป็นต้น หน้ามืดหรือช็อคหมายถึงมีการเสียเลือดหรือน้ำ
เข่น เลือดออกจากเส้นเลือดใหญ่เอออร์ต้าปริหรือแตก เลือดออกจากกระเปาะลำไส้
กระเพาะทะลุและท้องนอกมดลูก หรือการเสียน้ำจากท้องเสียรุนแรง เป็นต้น
5.
อาการอื่นที่เกี่ยวข้องและมีความสำคัญช่วยการวินิจฉัยอาการปวดท้องเฉียบพลันได้แก่
ถ่ายเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด หรือมีอาการตกขาว ส่วนอาการอื่นที่อาจเกี่ยงข้องแต่ไม่ค่อยจำเพาะต่อการวินิจฉัยได้แก่
ปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้หรืออาเจียน เป็นต้น
Key words: acute,
abdomen, pain, emergency, severe, adult, menstruation, ovulation, bleeding, fever, shock.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก